เกริ่นนำ

ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Ideas for Thailand ครับ Blog นี้มีัวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคอลเลคชั่นที่รวบรวมและแบ่งปัน "นวัตกรรมทางความคิด" ในด้านต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อสังคมในระดับมหภาคจากนักคิดเชิงนวัตกรรมสมัครเล่นทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเป็นไอเดียสำหรับนำไปปรับใช้พัฒนาประเทศไทยของเรา ขอเชิญร่วมแสดงและแลกเปลี่ยนความคิดกันนะครับ

ระบบขนส่งส่วนบุคคลสาธารณะที่ยั่งยืน

Sustainable Personal Mobility: The CityCar, the RoboScooter, and Mobility-on-Demand Systems

เมืองในฝันที่ทุกคนสามารถเช่าพาหนะสำหรับใช้เดินทางแทนรถยนต์ ไม่ต้องซื้อและไม่ต้องเสียค่าดูแล อีกทั้งยังเป็นมิตรต่้อสิ่งแวดล้่อม
รถยนต์ส่วนบุคคลนับเป็นนวัตกรรมของศตวรรษที่ 20 รถยนต์นั่งส่วนบุคคลได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนและรูปแบบของเมืองอย่างใหญ่หลวง อย่างไรก็ตามพัฒนาการของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเริ่มมาถึงจุดอิ่มตัว และได้เริ่มก่อผลกระทบทางลบต่อสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็น ความแออัดในเมืองใหญ่ การขยายตัวอย่างไร้ทิศทางของเมือง การสิ้นเปลืองพลังงาน ปัญหามลพิษและสิ่งแวดล้อม การใช้พื้นที่อย่างไม่มีประสิทธิภาพ (สำหรับทำพื้นที่จอดรถ) รวมถึงการที่เศรษฐกิจต้องพึ่งพิงน้ำมันสูง และซึ่งมักนำไปสู่ความขัดแย้งในระดับโลก แม้ว่าจะมีความพยายามในการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์นั่งหรือระบบถนนให้ไฮเทคและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ความพยายามเหล่านี้ก็เริ่มถึงจุดอิ่มตัวแล้วเช่นกัน มาดูกันว่าไอเดียที่ชนะเลิศ Ideas Index ปี 2009 นั้นจะเลิศแค่ไหน

ดังนั้นกลุ่มนักวิจัยซึ่งประกอบไปด้วย William Mitchell, Ryan Chin, Charles Guan, William Lark, Jr., Michael Chia-Liang Lin, Dimitris Papanikolaou, Arthur Petron, Raul-David Poblano และ Andres Sevtsuk ได้ทำการศึกษาระบบการใช้ยานพาหนะร่วมกันในซาน ฟรานซิสโก, ลอนดอน, ฟลอเรนซ์, ลิสบอน, ไทเป และ บังกาลอร์ รวมทั้งได้ศึกษาระบบจักรยานสาธารณะ Vélib ของกรุงปารีสซึ่งเป็นระบบ mobility-on-demand system ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยจำนวนจักรยานกว่า 20,000 คัน และแร็คจอดกว่า 1,200 อัน

รถจักรยานไฟฟ้า มีน้ำหนักเบาและสามารถพับได้
ระบบขนส่งส่วนบุคคลสาธารณะที่จะเข้ามาแทนการใช้รถยนต์นั่งส่วนบุคคลนั้นในเบื้องต้น ประกอบไปด้วย CityCar, RoboScooter และ จักรยาน GreenWheel ซึ่งล้วนแต่ขับเคลื่อนจากพลังงานไฟฟ้าที่สำรองไว้ในแบตเตอรี่ และควบคุมด้วยระบบ mobility-on-demand ยานพาหนะเหล่านี้ล้วนแต่มีน้ำหนังที่เบามาก ไม่มีท่อไอเสียและใช้พลังงานและก่อให้เกิดมลภาวะในระดับต่ำมาก
เปรียบเทียบขนาดและน้ำหนักของพาหนะส่วนบุคคลสาธารณะ
ระบบ mobility-on-demand นั้นจะประกอบไปด้วยซอฟแวร์อัจริยะที่จะควบคุมผ่านจุดจอดที่ตั้งอยู่ในจุดที่สะดวกในเขตเมือง โดยระบบการเช่าจะเป็นการเช่าเพียงขาเดียวเท่านั้น ไม่มีแบบว่าเอาไปครองทั้งวันเสมือนพาหนะส่วนตัว เนื่องจากพาหนะจะถูกควบคุมด้วยระบบติดตาม และจะปฏิบัิติการควบคู่ไปกับระบบบ mobility-on-demand รวมถึงการเติมไฟก็จะต้องเติมผ่านแร็คจอดเท่านั้น 
แรงบันดาลใจจากระบบ velo ในปารีส
ผู้ที่ีต้องการจะใช้พาหนะเหล่านี้เพียงแค่เดินไปที่จุดจอด เสียบบัตรเครดิต เอารถออกมาขับไปยังจุดหมาย และนำไปจอดยังจุดจอดที่ใกล้เคียงเท่านั้น เมื่อยานพาหนะเหล่านี้กลับเข้าแร็คจอด รถเหล่านี้ก็จะถูกเติมไฟใหม่โดยอัตโนมัติ

เป็นไงบ้างครับ หวังว่าในอนาคตกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ ๆ จะมีระบบขนส่งส่วนบุคคลสาธารณะนี้บ้าง และสามารถทำให้ผู้คนยกเลิกการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลได้ เมื่อนั้นเมืองไทยของเราคงน่าอยู่ขึ้น ท้องฟ้าก็คงใสมากขึ้น


ที่มา: http://challenge.bfi.org/application_summary/489#

No comments: