เกริ่นนำ

ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Ideas for Thailand ครับ Blog นี้มีัวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคอลเลคชั่นที่รวบรวมและแบ่งปัน "นวัตกรรมทางความคิด" ในด้านต่าง ๆ ที่ส่งผลต่อสังคมในระดับมหภาคจากนักคิดเชิงนวัตกรรมสมัครเล่นทั้งในและต่างประเทศ เพื่อเป็นไอเดียสำหรับนำไปปรับใช้พัฒนาประเทศไทยของเรา ขอเชิญร่วมแสดงและแลกเปลี่ยนความคิดกันนะครับ

ไอเดียดี ๆ มาได้ไง???

"WHERE GOOD IDEAS COME FROM" โดย Steven Johnson




คนที่สามารถผลิตความคิดดี ๆ ออกมาได้ตลอดนี่ปัจจุบันเป็นที่ต้องการของบริษัทและองค์กรต่าง ๆ อย่างมากนะครับ พวกเราเคยสงสัยมั๊ยครับว่าืำทำไมบางคนถึงคิดไอเดียเจ๋ง ๆ ได้อยู่เสมอ? และทำไมคนเหล่านี้จึงเป็นที่ต้องการของบริษัทต่าง ๆ? หลังจากที่ได้ศึกษามาระยะหนึ่ง นายไมเคิล สตีเว่น พบว่ารูปแบบของการเกิดของไอเดียดี ๆ นั้นมีอยู่ 4 รูปแบบด้วยกันครับ




1) ไอเดียดี ๆ ไม่ไ่ด้เกิดแบบไม่ทันตั้งตัวหรือโดยบังเอิญ ประมาณว่าเดินตกท่อแล้วปิ๊ง! แต่ใช้เวลาครับ ไอเดียพลิกฟ้าเนี่ยอาจใช้เวลาพัฒนาหลายปีเลยจึงจะสามารถนำไปใช้ได้ เพราะไอเดียดี ๆ เหล่านี้เกิดจากการปะติปะต่อของ จิตใต้สำนึกหรือลางสังหรณ์ลึก ๆ (intuition หรือ hunch) หลาย ๆ อย่างที่เจ้าของไอเดียมี หรือที่เค้าได้มาจากที่อื่นจากการเป็นคนฟังมาก อ่านมาก หรือการเป็นคนช่างสังเกตุ คนที่มีไอเดียดี ๆ หรือบริษัทที่ขยันผลิตนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมาดูดเงินพวกเรานี่เค้ามีวิธีการปะติปะต่อ (connectivity) ไอเดียจากแหล่งต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ เหมือนการนำจิ๊กซอว์จากที่ต่าง ๆ มาต่อเติมเข้าด้วยกัน จนได้ไอเดียใหม่ของตัวเองขึ้นมา และนี่เป็นวิธีที่บริษัทอย่าง apple หรือ google พยายามทำอยู่คือ การสร้างพื้นที่ให้คนที่มีความคิดสร้างสรรค์สูง ๆ จากที่ต่างๆ ได้พบปะกัน หรือทำงานด้วยกัน เพื่อให้พนักงานแต่ละคนได้มีโอกาสหยิบยืมหรือ connect ไอเดียของตนเองกับของคนอื่นเข้าด้วยกันจนเกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมา

มาถึงจุดนี้แล้วผู้อ่านของผมคงเห็นแล้วว่า การเป็นคน creative เนี่ยมันฝึกฝนกันได้ ก็เหมือนกับทักษะด้านอื่น ๆ  น้อยคนนักที่จะเป็นพวก creative แบบ born-to-be สำหรับ pattern ที่ 2-4 นั้น นายสตีฟคนนี้ยังไม่ได้พูดถึง ถ้้าผมเจอแล้วจะเอามาถ่ายทอดให้นะครับ

No comments: